
เกษตรกรไทยมักจะประสบปัญหาการขาดทุนในการประกอบอาชีพการเกษตร เนื่องจากส่วนใหญ่มักจะปลูกพืชแบบเชิงเดี่ยว เช่น ข้าว ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง ยาง ปาล์ม ซึ่งมีต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ในขณะที่ราคาขายมีความผันผวนและตกต่ำ จึงทำให้มีความเสี่ยงสูง ทางออกของปัญหานี้เกษตรกรไทยจึงควรยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปรับเปลี่ยนวิธีคิดในการทำการเกษตร ส่วนหนึ่งให้หันมาทำเกษตรผสมผสานเพื่อการพึ่งพาตนเอง เพื่อให้ตนเองและครอบครัวมีกินมีใช้อย่างเพียงพอ อีกส่วนหนึ่งปรับเปลี่ยนพืชที่จะปลูก ไม่ต้องพึ่งพิงตลาดมากนัก เป็นพืชที่เกษตรกรส่วนใหญ่อาจจะนึงไม่ถึง แต่มีศักยภาพที่จะสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรเป็นอย่างดี "ไผ่" เป็นพืชที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นพืชที่ปลูกง่าย ปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมได้ดี ที่สำคัญมีต้นทุนต่ำ ลงทุนปลูกครั้งแรกครั้งเดียว สามารถเก็บผลผลิตที่เป็นหน่อไม้ ใบ ไม้ไผ่ขายได้นานหลายปี ซึ่งผลผลิตไผ่ในปัจจุบันกำลังขาดแคลนและเป็นที่ต้องการของตลาด หากมีความรู้และดูแลเอาใจใส่ ปลูกไม่ต้องมากก็สามารถมีรายได้ดีเทียบเท่าหรือดีกว่าพืชเศรษฐกิจเชิงเดี่ยวหลายชนิด